Mangkapon

Mangkapon
The Monster Rock Band

วันพุธที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2555

เบื้องหลังการทำชุด คำรามรบ หัวหน้าวงแมงกะโปน

ทำไมใช้ชื่อวงว่าแมงกะโปน แต่ไม่ใช้แมงกะโปนเป็นหัวหน้าวง คงสงสัยนะครับ คืองี้ ชุดแมงกะโปนทำไว้ก็คาดหวังว่าจะขยับปากได้เหมือนกัน ทำรองรับความคิดนี้ไว้ แต่พอทำไปๆ ในส่วนของกรามมันมียางเยอะไปหน่อยเลยทำให้ส่วนนั้นแข็งเลยขยับปากไม่ได้ จะเลาะออกมาแก้ไขก็คงเป็นงานใหญ่ เลยตัดสินใจทำตัวใหม่เลย ให้เป็นตัวที่สามารถขยับปากพูดได้ นำเสนอความคิดในการแสดงได้ ออกมาเป็นหัวหน้าวง ต้นแบบของคำรามรบ เกิดจากสิงโตซึ่งในนิทานโบราณถือว่าเป็นเจ้าป่า ตัวนี้ไม่มีการสเก็ตภาพออกมา แต่ใช้การทดเอาไว้ในหัวว่ารูปร่างรวมๆ จะออกมาในลักษณะนี้ๆๆๆ มีผมยาว ตามีไฟ ปากขยับได้ ตัวมีกล้าม ในกล้ามจะมีลวดลายคล้ายๆ คล้าย the thing ในแฟนตาสติกโฟว์ คิดเผื่อๆ ไว้น่ะครับ อาจได้ตามต้องการ หรือไม่ได้ ก็ต้องรื้อฟื้นกันดู เพราะว่าทิ้งงานทำชุดสัตว์ประหลาดไปนาน กลับมาทำอีกทีก็ลืมสูตรผสมยาง ผสมสีไปบ้าง สมุดจดสูตรดันหาย ผมขึ้นโครงบนหุ่นโชว์เสื้อที่ซื้อไว้ตั้งแต่ตอนตัวผมยังผอมๆ กะๆ เอาว่าตอนนี้พุงขนาดนี้ น่าจะต้องทำเผื่อตรงพุงเอาไว้หน่อย ชุดทุกชุด ผมวัดตัวจากตัวผม และหุ่นโชว์เสื้อตัวนี้ครับ ส่วนใหญ่คนที่มาแสดงจะใส่ได้ เลยใช้เป็นมาตรฐานเรื่อยมา


ตั้งแต่ครั้งที่ผมไปรับงานกับน้าต๋อย ตอนคริสตัลไนท์ ผมจะเริ่มมีการมาร์คจุดของกล้ามเนื้อบ้าง มันอาจไม่เป๊ะเท่าไร แต่ถ้าหากต้องการให้มันเป็นรูปเป็นร่างเข้ากับลักษณะของร่างกาย เราจำเป็นต้องนึกถึงกล้ามเนื้อบ้าง ก็ใช้โหลดภาพตำแหน่งกล้ามเนื้อมาจากในเน็ทแล้วพิมพ์ออกมาดู วางกระดาษไว้แถวนั้น พอมาอีกวันหาย หาไม่เจอ พิมพ์ใหม่ หายอีก ทำงี้อยู่สามรอบ หายเหมือนเดิม สงสัยเลยถามแม่ผมว่าไปไหน เขาบอกวางไว้เกะกะกูทิ้งขยะไปหมดแล้ว นั่นไง ว่าแล้วว่ามันหายไปไหน ทีนี้ติดสก็อตเทปปะผนังไปเลย ดูซิว่าจะมาลอกทิ้งขยะไปอีกหรือเปล่า อุปสรรคการทำงานไม่ได้มาจากทำไม่ได้หรือทำไม่เป็น แต่มาจากคนในครอบครัว แม่เห็นกวาดทิ้ง แฟนเห็นมันก็มาพูดดูถูก ฉะนั้นเรื่องโดนวิพากษ์วิจารณ์งานในทางลบสำหรับคนอื่นอาจเป็นเรื่องใหญ่ แต่สำหรับผมมันเป็นเรื่องเล็ก เพราะขนาดคนในครอบครัวมันยังไม่ยอมรับ ผมคิดว่างานที่เรารักเราชอบทำไปแล้วเราสบายใจ ไม่ต้องไปสนใจกับคนอื่น เพราะอะไรที่ทำแล้วไม่เห็นเป็นตัวเงินหรือเกียรติยศ เขาประเมินเป็นของไม่ดีไร้ค่าทั้งนั้น ถึงมีคนไม่ชอบงานเราเป็นล้านคน แต่คนที่พึงพอใจกับงานเราแค่สองสามคน แค่นั้นผมก็ว่าเป็นสิ่งวิเศษเพียงพอแล้ว


เมื่อทำโครงสร้างตัวเสร็จ ก็ถึงเวลาของการลงสี ครั้งนี้ผมลองผสมสีในสูตรใหม่ ผลออกมายังไม่ประทับใจ เพราะการยึดเกาะยังไม่เหมือนก่อน ในส่วนของหัวที่อยากให้ออกมาเหมือนสิงโต ไปติดปัญหาตรงตาที่ผมจะใส่ไฟลงไป ครั้งนี้ใช้ระบบหลอดไฟแยก ไม่ได้ฝังเข้าไปในหน้ากากเหมือนเมื่อก่อน เพราะผมเคยเจอปัญหาสายหักใน เนื่องจากหน้ากากผมเป็นยาง เวลาขนย้ายมีการกดทับ ยางบิด สายไฟข้างในมันถูกรั้ง นานไปสายหักใน มันเลยแก้ไขลำบากต้องผ่าหัวเข้าไปซ่อม เพื่อเป็นการแก้ปัญหานี้เลยใช้ไฟแยก ทำไปทำมา ตาเลยปูดออกมา จะให้เป็นสิงโตเลยหน้าออกมาแปลกๆ ไอ้อ๊อดมันเห็นมันบอกว่ากูเห็นเป็นหมาปั๊กว่ะ ไหนบอกสิงโต เออจริง เหมือนหมาปั๊กเลย... งานนี้มีเรื่องของวิกผมเข้ามาเกี่ยว ว่าจะเอาไหมพรมมาใช้แล้ว แต่ทดลองแล้วน้ำหนักในการสะบัดมันไม่ดีเท่าวิกผม เลยต้องยอมเสียเงินซื้อวิกผมมาทำ ผมซื้อวิกผมมาสองรอบเพราะคิดว่าอันเดียวคงพอ ปรากฏว่าไม่พอ วิกอันนี้เป็นสีขาวอมเหลือง พอไปซื้อใหม่ สีเดิมหมด มีแต่สีขาวอมฟ้า เลยมาลองใส่ดู เราเห็นใกล้ๆ มันเลยดูแปลกๆ แต่พอมองดูไกลๆ ดูไม่ออก มันก็โอเค จัดการเย็บติดเข้าไปที่หัว ลองใส่สะบัดดู โอเค ได้อารมณ์ร็อค อ้าปากซิ โฮก... เห็นปากกูด้วยว่ะ อย่างนี้ไม่ต้องกลัวว่าเสียงพูดจะไม่ชัด เพราะเอาปากจ่อไมค์ได้เลย


คำรามรบ จ้าวสิงโตภูผา (พยายามมองให้เป็นยังงั้น) กีตาร์สามารถปรับหมุนกลายเป็นอาวุธได้ ปล่อยแสงได้ มีเสียงคำรามทรงพลังที่สามารถทำลายศัตรูให้ระเบิดเป็นเสี่ยงได้ ดวงตาปล่อยเพลิงออกมาได้ มีพละกำลังมหาศาล สามารถทำลายภูผาให้พินาศในหมัดเดียว อันนี้เป็นสเป๊กคร่าวๆ รายละเอียดนึกไม่ออก คิดไว้เยอะ ทำออกมาแล้วไม่ได้ดังที่คิดเท่าไร ไว้แก้ตัวกับตัวใหม่ๆ ที่จะทำต่อไปละกัน

1 ความคิดเห็น: